Friday, September 12, 2014

เรียนรู้ภาษา ประเทศบรูไน


เรียนรู้ภาษา ประเทศบรูไน


หมวดทักทาย
คำศัพท์ 
คำอ่าน 
สวัสดีซาลามัด ดาตัง 
อากาศดีจัง
สบายดีไหมอาปา กาบา 
พบกันใหม่เบอจัมปา ลากิ
ขอบคุณ เตริมา กะชิ 
นอนหลับฝันดี มิมปิ๊ มานิส
เชิญ เม็นเจ็มพุด
ไม่เป็นไร ทีแด๊ก อปาอาปา
ยินดีที่ได้รู้จักเจมบิรา ดาปัด เบอเตมู อันดา
ลาก่อนเซลามัต ติงกัล 
ใช่ ยา 
ไม่ใช่ ทีแด๊ก
อากาศร้อนมากซังกัด พานัส 
อากาศหนาวมาก คอค่า ยัง ซังกัด เซจุ๊ค

หมวดอาหาร
คำศัพท์ 
คำอ่าน 
ก๋วยเตี๋ยว มิ
น้ำแกง ซุป
ของหวาน เพ็นคูซี่
ขนม มานิส
ไอศกรีมอาอิส กริม
น้ำแอร์ 
กาแฟโคปิ 
นมซูซู 
เนื้อหมูดาจิง บาบิ
ไก่อายัม
ปลาอิคาน 
เนื้อวัวดาจิง 
ผักซาโย ซายูรัน 
ผลไม้บูอา บัวฮัน 
อร่อยลาซัท 
เผ็ดพีดาส
หวานมานิส 
เปรี้ยวมาซัม 
เค็มมาซิน

หมวดการนับเลข
คำศัพท์
คำอ่าน 
หนึ่งซาตู
สองดัว
สามทิก้า
สี่เอ็มแพท
ห้าลิม่า
หกอีนาม
เจ็ดทูจู 
แปดลาพัน
เก้าเซ็มบิลัน
สิบเซปูลู
วันฮาริ
สัปดาห์มิงกุ
เดือนบูลาน
ปีทาฮุน
กี่โมงแล้ว อาปาคา มาซ่า
ชั่วโมงแจม

หมวดช็อปปิ้ง

คำศัพท์ 
คำอ่าน 
ราคาเท่าไหร่เบราปา บันยัค
ลดราคาได้ไหมจัวลัน ซายา 
เงินทอนเปรูบาฮาน อิตู
เงินสดตูไน
บัตรเครดิต ก๊าด เครดิต
ราคาแพง มาฮาล
ราคาถูก มูร่า
ซื้อเม็มบิลิ
ไม่ซื้อทีแด๊ค เม็มบิลิ
เสื้อผ้าคาอิน
รองเท้า คาสุด
เครื่องสำอาง คอสเมติก
ยาเปรูบาทาน
เครื่องใช้ไฟฟ้าเปอคาคัส
กระเป๋าเบ็ค
กระเป๋าสตางค์ ดอมเปต
หนังสือเดินทางพาสปอร์ต 

หมวดอำนวยความสะดวก
คำศัพท์ 
คำอ่าน 
ห้องน้ำ แทนดัส
โทรศัพท์ เทเลโฟน
บัตรเติมเงิน เทเลโฟน ก๊าด
โทรศัพท์สาธารณะ เทเลโฟน อะวัม 
โทรศัพท์มือถือเทเลโฟน บิมบิท
ตู้ ATM เอทีเอ็ม
ผ้าเย็น ตัวล่า เซจุ๊ค
รองเท้าแตะ เซลีปา
ผ้าเช็ดตัว ตัวล่า
ผ้าเช็ดหน้า ซาปู ทันกัน
กล้องถ่ายรูปคาเมร่า
กล้องวิดีโอ แคมคอเด้อร์ 
- หมวดสกุลเงิน

สกุลเงิน ริงกิต (Ringgit)
อักษรย่อ : RM (Ringgit Malaysia)

ชนิดของเงิน : 

เหรียญ 


5, 10, 20, 50 เซ็น

100 เซ็น = 1 ริงกิต
ธนบัตร
1, 5, 10, 50, 100 ริงกิต
หมวดการเดินทาง
คำศัพท์
คำอ่าน 
โรงแรม โฮเทล
โรงภาพยนตร์ พาวากัม
โรงละครทีเต้อร์
โรงพยาบาลฮอสปิตอล
พิพิธภัณฑ์ มิวเซียม
สถานีตำรวจ บาไล โปลิส
ภัตตคาารเรสโตรัน
ถนนจาลัน
ร้านค้าเมมบิลิ เบลา
ห้างสรรพสินค้าดีพาร์ทเม้นท์สโตร์
ร้านขายยาเคได ยูบัต
สวนสาธารณะทามาน อะวัม
สนามกีฬาสุกัน สเตเดี้ยม
สนามบินลาปากัน เทอบัง
สถานีขนส่งสายเหนือ เทอมินอล บัส อูทาร่า
สถานีขนส่งสายใต้ เทอมินอล บัส เซลาตัน
สถานีขนส่งสายตะวันออกเทอมินอล บัส ติเมอ
ธนาคารแบงค์
แท็กซี่เท้กซี่
รถเมล์บัส อะวัม
รถไฟฟ้า เอ็มอาร์ที เม้ทโทร เรล ทรานสิท 
รถไฟฟ้าใต้ดินเอ็มอาร์ที
เรือเฟอรี่
รถทัวร์เพอคูม่า
เครื่องบินกาปัล เทอบัง

ภาษาประจำประเทศบรูไน

ภาษาประจำประเทศบรูไน 
ภาษามลาบรูไน 
(มาเลย์Bahasa Melayu Brunei) เป็นภาษาประจำชาติของประเทศบรูไนและเป็นภาษากลางในพื้นที่บางส่วนของมาเลเซียตะวันออก ภาษานี้ไม่ใช่ภาษาราชการของบรูไน (ซึ่งใช้ภาษามลายูมาตรฐานเป็นภาษาราชการ) แต่มีบทบาทสำคัญในสังคมและกำลังแทนที่ภาษาของชนกลุ่มน้อยภาษาอื่น ๆ ภาษามลายูบรูไนมีผู้พูดประมาณ 266,000 คน[1] พบในบรูไนประมาณ 215,000 คน (พ.ศ. 2527) ในบริเวณเมืองหลวงและตามแนวชายฝั่ง พบในประเทศมาเลเซียประมาณ 51,000 คน (พ.ศ. 2543) ในบริเวณชายฝั่งทางตอนเหนือ เบอไลต์บน และบริเวณแม่น้ำตูเตาของรัฐซาราวักและในรัฐซาบาห์
ภาษามลายูบรูไนจัดอยู่ในตระกูลภาษาออสโตรนีเซียน กลุ่มภาษามาลาโย-โปลินีเซีย สาขามาลาโย-ซุมบาวา สาขาย่อยมาเลย์อิก เช่นเดียวกับภาษามาเลเซียและภาษาอินโดนีเซีย แต่เนื่องจากได้รับอิทธิพลจากภาษาเกอดายันซึ่งเป็นภาษาของชนพื้นเมืองกลุ่มหนึ่งในบรูไน จึงมีคำศัพท์หลายคำที่แตกต่างไปจากภาษามลายูมาตรฐาน



การปกบ้านครองเมือง ประเทศบรูไน


การปกบ้านครองเมือง ประเทศบรูไน



สมเด็จพระราชาธิบดี  ฮัจญี  ฮัสซานัล  โบลเกียห์  มูอิซซัดดิน  วัดเดาะห์
     
ในอดีตบรูไนมีกำลังอำนาจมาก  มีสุลต่านเป็นผู้ปกครองรัฐ  ซึ่งมีอาณาเขตครอบครองพื้นที่ส่วนใหญ่ของเกาะบอร์เนียวและส่วนหนึ่งของหมู่เกาะซูลู  (Sulu)  เมื่อเริ่มมีชาวยุโรปเดินเรือมาค้าขาย บรูไนก็เฟื่องฟูทางการค้า  สินค้าส่งออกที่สำคัญในสมัยนั้น  คือ  การบรุ  พริกไทย  และทองคำ
     หลังจากนั้น  บรูไนก็ค่อยๆ  เสียดินแดนให้ยุโรป  รัฐเริ่มเสื่อมอำนาจลง  ต่อมาเซอร์เจมส์ บรุก  (James Brooke)  ชาวอังกฤษ  เดินทางมาและได้ยื่นข้อเสนอช่วยปราบปรามโจรสลัด  สุลต่านจึงยกดินแดนบางส่วนให้  แล้วอังกฤษก็เริ่มมีอำนาจการปกครองมากขึ้นเรื่อยๆ  จนบรูไนได้ลงนามในสนธิสัญญายินยอมเป็นรัฐในอารักขาของอังกฤษอย่างสมบรูณ์ในปี  พ.ศ. 2449  ทำให้อังกฤษมีอำนาจการปกครองอย่างเต็มที่เป็นเวลา  95  ปี  จนกระทั่งได้รับเอกราชจากอังกฤษเมื่อวันที่  1  มกราคม  พ.ศ. 2527
     ประเทศบรูไนมีรูปแบบการปกครองแบบ  สมบูรณาญาสิทธิราชย์  ประมุขผู้นำรัฐบาลคนปัจจุบันคือ  สมเด็จพระราชาธิบดี  ฮัจญี  ฮัสซานัล  โบลเกียห์  มูอิซซัดดิน  วัดเดาะห์  (His Majesty Sultan Haji Hassanal Bolkiah Mu’izzaddin Waddaulah)  สมเด็จพระราชาธิบดีองค์ที่  29  โดยทรงเป็นพระประมุขของประเทศตั้งแต่วันที่  5  ตุลาคม  2510  จนถึงปัจจุบัน

     การปกครองระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ (Absolute Monarchy) คือ ระบอบการปกครองที่มีกษัตริย์เป็นผู้ปกครอง สิทธิ์ขาดในการบริหารประเทศในอดีตประเทศไทยเคยมีการปกครองรูปแบบนี้ตั้งแต่สมัยสุโขทัย และมีการเปลี่ยนแปลงการปกครองเป็นระบอบประชาธิปไตยใน  ปี พ.ศ. 2475
วันสำคัญแห่งชาติของบรูไน
วันชาติ  คือ  วันที่  23  กุมภาพันธ์
วันประกาศอิสรภาพ  คือ  วันที่  1  มกราคม  พ.ศ. 2527วันคล้ายวันประสูติสมเด็จพระราชาธิบดี  ตรงกับวันที่  15  กรกฎาคม
บรูไนแบ่งการปกครองออกเป็น 4 เขต ได้แก่
1. เขตบรูไน-มัวรา (Brunei - Muara)
2. เขตเบอไลต์     (Belait)
3. เขตตูตง         (Temburong)
4. เขตเติมบูรง     (Tutong)
     อำนาจการปกครองสูงสุดในบรูไนนั้นเป็นของสุลต่าน  ตามรัฐธรรมนูญ  ของประเทศบรูไน  (ฉบับปี  พ.ศ. 2527)  ที่กำหนดให้สุลต่านเป็น อธิปัตย์  คือ  เป็นทั้งประมุขและนายกรัฐมนตรี  โดยมีเกณฑ์ว่า  ผู้เป็นนายกรัฐมนตรีจะต้องเป็นชาวบรูไนเชื้อสายมาเลย์โดยกำเนิดและต้องนับถือศาสนาอิสลามนิกายซุนหนี่
     ปัจจุบันนอกจากสม่ด็จพระราชาธิบดีจะทรงเป็นประมุขของประเทศและนายกรัฐมนตรีแล้ว  ยังดำรงตำแหน่งทางการเมืองอื่นๆ  ด้วย  ได้แก่  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมและกระทรวงการคลัง
     ทางด่านการบริหารประเทศ  รัฐบาลบรูไนให้ความสำคัญกับประชาชนเป็นอย่างยิ่ง  เช่นเมื่อปี ฑ.ศ. 2548  สมเด็จพระราชาธิบดีเปิดโอกาสให้นักธุรกิจที่ไม่ใช่มุสลิม  แต่มีความสามารถ  เข้ามาเป็นคณะรัฐมนตรีเป็นคนแรก  เพื่อต้องการพัฒนาประเทศให้ก้าวหน้า
     นอกจากนี้บรูไนยังมีระบบ  รัฐสวัสดิการ  ที่มีประสิทธิภาพ  คือรัฐให้บริการประชาชนโดยไม่เก็บค่าเล่าเรียน  เด็กอายุต่ำกว่า  12  ปี ไม่ต้องเสียค่ารักษาพยาบาล  รวมทั้งสนับสนุนให้ทุกคนมีที่อยู่อาศัยเป็นของตัวเอง
     ประเทศที่มีระบบ รัฐสวัสดิการ จะใช้ระบบการเก็บภาษี  แบบก้าวหน้านั่นคือ  รัฐบาลจะเก็บภาษีจากคนรวยเป็นจำนวนมากกว่าคนจนมาก  ส่วนคนที่มีฐานะไม่ดีก็จะเก็บในอัตราน้อยหรือไม่เรียกเก็บเลย  ซึ่งรัฐจะนำเงินภาษีที่เก็บได้นี้มาใช้จ่ายให้บริการทางสังคมแก่ประชาชน
    * ภาษีเงินได้  คือ  เงินที่รัฐบาลบังคับเก็บจากประชาขน  เพื่อนำมาใช้พัฒนาบริหารประเทศเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม *

ทำเลที่ตั้ง ประเทศบรูไน


ทำเลที่ตั้ง ประเทศบรูไน
ทำเลที่ตั้ง ประเทศบรูไน
     ประเทศบรูไนตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของเกาะบอร์เนียว  บรูไนเป็นประเทศขนาดเล็กและมีดินแดนไม่ติดกัน  จึงแยกเป็น  2  ส่วน  ภูมิประเทศส่วนใหญ่เป็นที่ราบและชายฝั่งทะเล  โดยด้านทิศตะวันออกเป็นพื้นที่ชายฝั่งสูงขึ้นเป็นภูเขา  และด้านทิศตะวันตกเป็นเนินเขาต่ำ  ประชากรร้อยละ  97  อาศัยสูงขึ้นเป็นภูเขา  เพราะด้านตะวันออกมีภูเขาสูงเป็นจำนวนมาก

     เกาะบอร์เนียว  (Borneo)  เป็นเกาะที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ  3  ของโลก  ซึ่งมีประเทศอยู่  3  ประเทศ  คือ  มาเลเซีย  อินโดนีเซีย  และบรูไน  แต่ก่อนพื้นที่บนเกาะนี้ส่วนใหญ่เคยเป็นของบรูไน  ต่อมาชื่อเรียกก็เพี้ยนจากบรูไนมาเป็นบอร์เนียว
     อาณาเขตของบรูไนล้อมรอบด้วยประเทศมาเลเซียเกือบทั้งหมด  โดยทิศตะวันออก  ทิศตะวันตก  และทิศใต้  ติดรัฐซาราวัก  ประเทศมาเลเซีย  ส่วนทิศเหนือ  ติดทะเลจีนใต้

     ขนาดของประเทศบรูไนใกล้เคียงกับจันทบุรี  หรือขนาดเป็น  12  เท่าของจังหวัดภูเก็ต

  แม่น้ำบรูไน

     บรูไนมี ภูเขาและป่าไม้มากมาย  เทือกเขาที่สูงที่สุดในประเทศคือเทือกเขา  บูกิตปากอง (Bukit  Psgon)  อยู่ในเขตเต็มบูรง  ติดกับพรมแดนมาเลเซีย  ยอดเขาที่สูงสุดสูงถึง  1,850  เมตรจากพื้นดิน
     แม่น้ำที่สำคัญ  ได้แก่  แม่น้ำบรูไน  แม่น้ำเบไลต์  แม่น้ำแพนดารัน  มาน้ำเต็มบูรง  แม่น้ำตูตง
     ประเทศบรูไนมรลักษณะภูมิอากาศร้อนชื้น  ฝนตกชุกมากเป็นพิเศษช่วงเดือน มีนาคม – เมษายน  จะเป็นช่วงที่อากาศเย็นสบายที่สุด
     ภัยธรรมชาติที่มีโอกาสเกิดขึ้นที่บรูไน  ได้แก่  พายุไต้ฝุ่น  แผ่นดินไหว  และอุทกภัย

     บรูไนไม่ยินยอมให้อุตสาหกรรมใดก็ตามดำเนินกิจการโดยส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม  ทำลายธรรมชาติ

     เวลาที่บรูไนเร็วกว่าประเทศไทย  1  ชั่วโมง

แหล่งผลิตน้ำมัน ประเทศบรูไน
     พื้นที่ร้อยละ  70  ของประเทศบรูไนเป็นผืนป่า  บรูไนจึงยังอุดมสมบูรณ์ด้วยป่าไม่และแร่ธาตุ  มีพื้นดินที่เหมาะแก่การเพาะปลูก  สัตว์น้ำในน่านน้ำก็ยังอุดมสมบูรณ์เช่นกัน
     การสำรวจพบแหล่งน้ำมันในบรูไนเมื่อปี พ.ศ. 2422  (ค.ศ. 1879)  ทำให้บรูไนร่ำรวยด้วยน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ  จึงเป็นผู้ผลิตน้ำรายใหญ่เป็นอันดับ  3  ของภูมิภาคอาเซียน และเป็นผู้ผลิตก๊าซธรรมชาติเป็นอันดับ  4  ของโลก  ซึ่งทรัพยากรน้ำมันและก๊าซธรรมชาติถือเป็นรายได้หลักของประเทศ

การแสดงประเทศบรูไนและเครื่องดนตรี



การแสดงประเทศบรูไนและเครื่องดนตรี


การแสดงของบรูไนมีมากมาย  ทั้งในส่วนที่เป็นของชาวมลายู  ซึ่ง
     คล้ายคลึงกับประเทศเพื่อนบ้านอย่างมาเลเซีย  อินโดนีเซีย  และการที่เป็นของชนพื้นเมือง
 
 
วงบรรเลงกุลิงตังกัน
วงบรรเลงกุลิงตังกัน
 
     เป็นวงบรรเลงดนตรีที่ใช้เครื่องสายบรรเลงร่วมกับกุติงตังกัน   (Kulintankan)   ใช้บรรเลงตามเทศกาลพิเศษต่างๆ เช่น งานสมรส พิธีทางศาสนา  รวมทั้งการบรรเลงต้อนรับคนสำคัญ
     กุลิงตังกันประกอบด้วยฆ้องเล็ก 8-9 ลูก ตีด้ยไม้หุ้มผ้า เป็นเครื่องดนตรีโบราณของชาวดูซูน และแพร่หลายในหลายพื้นที่
 
อะได- อะได (Adai –Adai)
 
     ในอดีตเป็นเพลงที่ชาวประมงร้องกันยามหาปลา  ปัจจุบันเป็นการแสดงฟ้อนรำประกอบดนตรี  เนื้อหาเกี่ยวกับชีวิตชาวประมง
 
 
ซาปิน
 
ซาปิน (Zapin) 
 
     ระบำพื้นบ้านของชาวมาลายู ประกอยด้วยดนตรีหลากหลายเลือกใช้ตามแต่วาระ โดยมากมักเล่นด้วยเรบานา (Rebana)  ด็อมบาค (Dombak)  กัมบุล(gambud) และไวโอลิน

อะดุ๊ก-อะดุ๊ก (Aduk-Aduk)
 
     นิยมมากในกลุ่มชนพื้นเมืองเกตานยันในประเทศบรูไน จุดเด่นของการแสดงชุนนี้อยู่ที่การใช้กะลามะพร้าวและกลองให้จังหวะ
 

 
     กระทรวงวัฒนธรรม  เยาวชน  และการกีฬาของบรูไนตั้งคณะนักแสดงวัฒนธรรมขึ้นมา  มีชื่อ  “เซนันดุง  ดารุสซาลาม” (Senandung  Darussalam)  เพื่อส่งเสริมและเผยแพร่วัฒนธรรมของบรูไนให้เป็นที่รู้จักในระดับนานาชาติ  ซึ่งนักแสดงคณะนี้ได้รับเชิญให้ไปแสดงตามประเทศต่างๆ ทั่งโลกเลยทีเดียว
 
 
 
ตาวะก์ - ตาวะก์
 
ตาวะก์ - ตาวะก์ (Tawak Tawak)  
 
     ทำจากทองเหลือง เป็นเครื่องเคาะให้เสียง จัดเป็นฆ้องชนิดหนึ่ง  สมัยก่อนใช้เคาะเป็นสัญญาณเรียกคนมาชุมนุม
 
กัมบุส
 
กัมบุส  (Gambus)
 
     เครื่องดนตรีประเภทดีด  คล้ายกีตาร์  มี  12  สาย  เวลาเล่นถือไว้แนบกับอก
 
 เก็นดัง
 
เก็นดัง  (Gandang)
 
      คำว่า  "เก็นดัง"  เรียกรวมถึงกลางทุกชนิดรวมถึงกลองทุกชนิด  ตังกลองมีมีขนาดยาว  ผิวหน้ากลองทำจากหนังวัว  หนังแกะ  ดึกหนังกลองให้ตึงด้วยเส้นหวาย
 
 
เทศกาลวันสำคัญต่างๆ ของบรูไน
 
วันเฉลิมฉลองเกี่ยวกับชาติ
- วันชาติบรูไน : 23  กุมภาพันธ์
- วันคล้ายวันประสูติสมเด็จพระราชาธิบดีแห่งบรูไน  15  กรกฎาคม
 
วันเฉลิมฉลองของศาสนาอิสลาม
- วันประสูติศาสดามุฮัมมัด : 5  กุมภาพันธ์
- วันตรุษฮารีรายออิดิฟิตรี้  เป็นเทศกาลหลังจากเสร็จสิ้นการถือศีลลอดในเดือนเราะมะฎอน  ในวันนี้ชาวมุสลิมจะเยี่ยมเยียนญาติมิตร  ทำอาหารรอเลี้ยงต้อนรับ
- วันตรุษฮารีรายออิดิลอัฎฮา  จัดขึ้นหลังจากวันตรุษฮารีรายออิดิลฟิตรี้ประมาณ  2  เดือน  เป็นวันที่มีการเชือดสัตว์พลี  และเลี้ยงดูปูเสื่อญาติมิตร
 
วันเฉลิมฉลองอื่นๆ
- วันขึ้นปีใหม่สากล :  1  มกราคม
- วันขึ้นปีใหม่จีน  ราวเดือนมกราคม – กุมภาพันธ์  เป็นวันรวมญาติอีกหนึ่งเทศกาล  ซึ่งวัฒนธรรมการนำส้มไปฝาก  เพื่ออวยพรให้อายุยืนและมีโชคและมีธรรมเนียมที่ผู้ใหญ่อั่งเปาเด็กๆ
วันครู : 23  กันยายน  
- วันคริสต์มาส :  25  ธันวาคม  เป็นวันเฉลิมฉลองของชาวคริสต์ในบรูไน
“การแข่งเรือ”  เป็นประเพณีสำคัญของบรูไน  มักจัดขึ้นเมื่อมีบุคคลสำคัญมาเยือน  หรือในงานเฉลิมฉลองวันคล้ายวันประสูติของสุลต่าน

การแต่งกายของประเทศบรูไนดารุสซาราม





ชุดประจำชาติของประเทศบรูไน

          ชุดประจำชาติของบรูไนคล้ายกับชุดประจำชาติของผู้ชายประเทศมาเลเซีย เรียกว่า บาจู มลายู (Baju Melayu) ส่วนชุดของผู้หญิงเรียกว่า บาจูกุรุง (Baju Kurungแต่ผู้หญิงบรูไนจะแต่งกายด้วยเสื้อผ้าที่มีสีสันสดใส โดยมากมักจะเป็นเสื้อผ้าที่คลุมร่างกายตั้งแต่ศีรษะจรดเท้า ส่วนผู้ชายจะแต่งกายด้วยเสื้อแขนยาว ตัวเสื้อยาวถึงเข่า นุ่งกางเกงขายาวแล้วนุ่งโสร่ง เป็นการสะท้อนวัฒนธรรมสังคมแบบอนุรักษ์นิยม เพราะบรูไนเป็นประเทศมุสสิม จึงต้องแต่งกายมิดชิดและสุภาพเรียบร้อย

 


บาจู มลายู และบาจูกุรุง - ประเทศบรูไน







สถานที่ท่องเที่ยวและสถานที่สำคัญของประเทศบรูไน


     สถานที่ท่องเที่ยวและสถานที่สำคัญของประเทศบรูไน

บรูไน หนึ่งในประเทศสมาชิกอาเซียน ตั้งอยู่บนเกาะบอร์เนียว ติดกับทะเลจีนใต้ และมีชื่อประเทศเต็ม ๆ ว่า เนการา บรูไน ดารุสซาลาม (Negara Brunei Darussalam) ซึ่งแปลว่า ดินแดนแห่งความสงบสุข และมีเมืองหลวงชื่อ บันดาร์ เสรี เบกาวัน (Bandar Seri Begawan)โดยมีระบบการปกครองแบบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ ด้านเศรษฐกิจนั้นโด่งดังเรื่องการส่งออกน้ำมัน จึงถือว่า บรูไน คือหนึ่งในประเทศอันมั่งคั่ง ทางด้านสถานที่ท่องเที่ยวโดดเด่นเรื่องสถาปัตยกรรมและธรรมชาติอันสวยงาม และกระปุกดอทคอมมี 10 สถานที่ท่องเที่ยวของประเทศบรูไน มาแนะนำกันค่ะ

 1. พิพิธภัณฑ์รอยัลเรกกาเลีย (Royal Regalia Museum)








    พลาดไม่ได้ด้วยประการทั้งปวงเลยสำหรับ พิพิธภัณฑ์รอยัลเรกกาเลีย ที่ตั้งอยู่ใจกลางกรุงบันดาร์ เสรี เบกาวัน เพราะเป็นที่ซึ่งรวบรวมข้าวของเครื่องใช้ของสุลต่านองค์ปัจจุบัน ทั้งฉลองพระองค์, เครื่องทรงทองคำ, อาวุธ และเครื่องราชบรรณาการจากประเทศต่าง ๆ ที่มีความวิจิตรงดงาม เช่น คริสตัล หยก งาช้าง ฯลฯ นอกจากนี้ ยังมีพระที่นั่งแบบจำลองให้ได้ชมกันด้วย สำหรับส่วนที่เป็นไฮไลท์ ได้แก่ ห้องเล็ก ๆ ที่จำลองขบวนพาเหรดและการตกแต่งอันสวยงาม เนื่องในวโรกาสฉลองครบรอบ 25 ปี การครองราชย์ขององค์สุลต่านนั่นเองค่ะ ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ไม่อนุญาตให้ถ่ายรูปภายใน ใครที่พกกล้องไปจะต้องฝากไว้ที่เคาน์เตอร์ด้านนอกเท่านั้นค่ะ

 2. มัสยิดทองคำ (Jame Ar' Hassanil Bolkiah Mosque)







         มัสยิดทองคำ Jame Ar' Hassanil Bolkiah Mosque ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1988 และเปิดตัวอย่างเป็นทางการในปี ค.ศ. 1994 เพื่อเป็นสัญลักษณ์สำคัญที่แสดงถึงการครองราชย์ครบ 25 ปี ขององค์สุลต่าน และมัสยิดแห่งนี้ยังยิ่งใหญ่และอลังการที่สุดในระเทศบรูไนด้วย จุดเด่นของมัสยิดทองคำ คือ หลังคาสีฟ้าน้ำทะเลที่มีโดมทองขนาดยักษ์ตั้งตระหง่านอยู่ตรงกลาง ด้านหน้าของตัวมัสยิดนั้นจะมีสระน้ำอยู่ ซึ่งดูคล้ายกับทัชมาฮาลในประเทศอินเดียทีเดียว


3. หมู่บ้านกัมปงไอเยอร์ (Kampong Ayer)





          ถือเป็นความเรียบง่ายที่น่าหลงใหลสำหรับ หมู่บ้านกลางน้ำกัมปงไอเยอร์ ซึ่งตั้งอยู่บริเวณปากแม่น้ำบรูไน โดยจะมีการแบ่งเป็นหมู่บ้านย่อย ๆ อีกกว่า 42 หมู่บ้าน และมีจำนวนประชากรอาศัยอยู่ประมาณ 30,000 คนเลยทีเดียว ซึ่งแต่ละหมู่บ้านนั้นเชื่อมต่อกันหมดด้วยทางเดินที่ทอดยาวกว่าเกือบสามสิบกิโลเมตร ซึ่งบริเวณหมู่บ้านยังประกอบไปด้วยโรงเรียน โรงพยาบาล ร้านอาหาร มัสยิด ฯลฯ และอาชีพหลักของคนในหมู่บ้าน คือ การประมงและการเลี้ยงสัตว์ แม้จะดูเรียบง่ายแต่ขอบอกว่าหมู่บ้านแห่งนี้เจริญไม่ต่างจากในเมือง เนื่องจากมีทั้งไฟฟ้า อินเทอร์เน็ต และสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ เข้าถึง โดยคุณสามารถเยี่ยมชมหมู่บ้านกลางน้ำกัมปงไอเยอร์ได้โดยการเดินลัดเลาะตามทางเดินที่เชื่อมต่อกัน รวมทั้งการนั่งเรือรับจ้างสัมผัสละอองน้ำบาง ๆ พร้อมกับชมทัศนียภาพโดยรอบของหมู่บ้าน

 4. พระราชวัง Istana Nurul Iman (The Istana Nurul Iman palace)





          พระราชวัง Istana Nurul Iman สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1987 และมีมูลค่ากว่า 1.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายในของพระราชวังถูกตกแต่งอย่างประณีตด้วยวัสดุชั้นดี และประกอบไปด้วย 1,788 ห้อง, ห้องน้ำ 257 ห้อง และ 5 สระน้ำ นอกจากนี้ ยังมีห้องจัดเลี้ยงขนาดใหญ่ซึ่งบรรจุได้ถึง 5,000 คนเลยทีเดียว ที่สำคัญยังพร้อมไปด้วยเครื่องอำนวยความสะดวกมากมายเลยค่ะ


 5. สวนสนุก Jerudong (Jerudong Park)






          อีกหนึ่งสถานที่สำคัญของประเทศบรูไน ได้แก่ สวนสนุก Jerudong ที่ถูกสร้างให้เป็นของขวัญของประชาชน โดยมีพื้นที่กว้างขวางและใหญ่กว่าสวนสนุกดิสนีย์แลนด์ในฮ่องกงเสียอีก ภายในจะมีเครื่องเล่นมากมาย ทั้งรถไฟเหาะ รถราง เหมาะสำหรับคนทุกเพศทุกวัย เพราะสวนสนุก Jerudong ยังมีสนามหญ้าสำหรับครอบครัวที่ต้องการมากปิกนิกอีกด้วย ส่วนค่าผ่านประตูแค่เพียงคนละ 1 ดอลลาร์สหรัฐเท่านั้น ซึ่งไม่รวมกับค่าตั๋วของเครื่องเล่นต่าง ๆค่ะ

 6. ชายหาดอันสวยงาม





          มาถึงสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติกันบ้าง ประเทศบรูไนนอกจากจะโดดเด่นเรื่องสถาปัตยกรรมแล้ว ด้านธรรมชาติยังงดงามไม่แพ้กัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งชายหาดต่าง ๆ ในประเทศบรูไนที่ติดกับทะเลจีนใต้ ขอบอกว่าแต่ละหาดนั้นมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ต่างกันไป เช่น หาด Muara ซึ่งอยู่ห่างจากกรุงบันดาร์ เสรี เบกาวัน เพียง 27 กิโลเมตรเท่านั้น ที่สำคัญหาดทรายยังสวยและพร้อมไปด้วยเครื่องอำนวยความสะดวกมากมาย ทั้งที่พัก ร้านอาหาร นอกจากนี้ ชายหาดขึ้นชื่อยัง ได้แก่ หาด Meragang, หาด Serasa และหาด Pantai Seri Kenangan

 7. อุทยานแห่งชาติ Temburong (Temburong National Park)






          อุทยานแห่งชาติ Temburong แหล่งธรรมชาติอันกว้างใหญ่ของประเทศบรูไน ซึ่งถ้าคุณอยากไปเที่ยวชมความงดงามของธรรมชาติล่ะก็ เราขอแนะนำให้คุณจัดสรรเวลาอย่างน้อยสองคืน เพราะผืนป่าในอุทยานแห่งชาติ Temburong นอกจากจะมีพื้นที่กว้างใหญ่แล้ว ยังมีสัตว์ป่านานาชนิดที่จะทำให้คุณตื่นตาตื่นใจได้แน่นอน อีกทั้งคุณยังจะได้ศึกษาวิถีชีวิตของชนพื้นเมือง รวมทั้งการล่องแพไปตามแม่น้ำ Temburong ให้คุณได้ใกล้กับธรรมชาติมากยิ่งขึ้น 

 8. อนุสาวรีย์น้ำมันหนึ่งล้านบาร์เรล (Billionth Barrel Monument)





          ขึ้นชื่อว่าเป็นประเทศส่งออกน้ำมันอันดับต้น ๆ ของโลก บรูไนจึงสร้างอนุสาวรีย์ Billionth Barrel Monument ขึ้นที่เมืองซีเรีย เพื่อเป็นการฉลองความมั่งคั่งของประเทศที่เป็นผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่ และที่สำคัญยังมีการขุดเจาะและค้นพบแหล่งน้ำมันอีกเรื่อย ๆ ด้วย ทั้งนี้ อนุสาวรีย์ Billionth Barrel Monument ถูกสร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1991 เนื่องจากเป็นปีประวัติศาสตร์สำคัญที่บรูไนสามารถผลิตน้ำมันได้สูงถึง 1 พันล้านบาร์เรลนั่นเองค่ะ ถ้ามีโอกาสไปเยือนบรูไนก็อย่าลืมแวะเวียนไปถ่ายรูปกับสัญลักษณ์ที่แสดงถึงความมั่งคั่งของประเทศนี้ด้วยนะคะ

 9. พิพิธภัณฑ์บรูไน (Brunei Museum)






          หากต้องการศึกษาประวัติศาสตร์ของประเทศบรูไน เราขอแนะนำ พิพิธภัณฑ์บรูไน ที่ซึ่งจะตอบโจทย์คุณได้ดีทีเดียว ภายในพิพิธภัณฑ์จะประกอบไปด้วยหลายโซน ได้แก่ โซนแกลลอรี่ ที่มีรูปภาพประวัติศาสตร์แสดงถึงความเป็นมาของประเทศบรูไนทั้งทางด้านวัฒนธรรมและการค้า, โซนแสดงโบราณวัตถุอันเก่าแก่และล้ำค่าจากมุสลิมทั่วโลก ทั้งคัมภีร์อัลกุรอาน ขนาดเล็กที่สุดในโลก, เครื่องประดับที่ทำด้วยทองสมัยโบราณ และหุ่นจำลองวัฒนธรรมประเพณีของชาวบรูไนสมัยก่อน ฯลฯ ซึ่งนับเป็นอีกหนึ่งสถานที่ยอดฮิตจากนักท่องเที่ยวทั่วโลกเลยค่ะ

 10. ย่านช้อปปิ้งของบรูไน




      แน่นอนว่าอีกหนึ่งสีสันของทุกทริป คือ ย่านช้อปปิ้ง ที่นักท่องเที่ยวอยากจะได้ของประจำชาตินั้น ๆ ติดไม้ติดมือไปเป็นที่ระลึกและสำหรับเป็นของฝาก และที่บรูไนก็มีหลายย่านด้วยกัน ส่วนสถานที่ช้อปปิ้งซึ่งเป็นที่รู้จักกันดี คือ Yayasan Sultan Haji Hassanal Bolkiah Complex ศูนย์การค้าที่ใหญ่ที่สุดของบรูไน ที่มีสินค้าน่าสนใจมากมายหลากหลายราคา เช่น สินค้าพื้นเมือง, ของโบราณ ไปจนถึงคริสตัลและเครื่องประดับราคาแพงเลยค่ะ ที่สำคัญตัวคอมเพล็กซ์ยังงดงามไปด้วยสถาปัตยกรรมที่ผสมผสานกันได้อย่างลงตัว และห้าง Gadong Shopping Mall ก็เป็นอีกสถานที่ช้อปปิ้งที่น่าสนใจไม่แพ้กันค่ะ

          แม้จะเป็นประเทศเล็ก ๆ แต่บรูไนก็เป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจโลกเลยก็ว่าได้ แถมยังเป็นต้นแบบของเมืองแห่งความสงบ ทั้งผู้คนในท้องถิ่นและผู้มาเยือนที่เคารพซึ่งกันและกัน นับเป็นอีกหนึ่งประเทศที่น่าแวะเวียนไปสักครั้งค่ะ